วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2566

Batch file copy folder to another folder by date (ตั้งค่า copy folder เพื่อ backup โดยการ copy อัตโนมัติไปเก็บใน Folder ที่สร้างตามวันที่ปัจจุบัน)

 1. เปิดโปรแกรม notepad บน Windows แล้วเพิ่มค่าเข้าไป ดังนี้ (ตัวอย่างเป็นการ copy ข้อมูลโปรแกรม Express สำหรับบัญชี)

 ECHO OFF
 for /F "tokens=2-4 delims=/ " %%i in ('date /t') do set yyyymmdd1=%%j"."%%i"."%%k
 if exist D:\Backup\Express goto GO
:GO mkdir Express%yyyymmdd1%
xcopy "E:\Express\ExpressIold" "D:\Backup\Express\Express%yyyymmdd1%" /h /i /c /k /e /r /y
echo.
echo Finished copying E:\Express\ExpressIold" "D:\Backup\Express 

pause

  * ให้เปลี่ยนพาธตาม Folder ที่เราต้องการจะ copy ข้อมูลไปเก็บไว้โดยแยกตามวัน

2. บันทึกไฟล์เป็นนามสกุล .bat ในที่นี้ชื่อ copy express.bat

3.หลังจากได้ไฟล์แล้วให้นำไปตั้งเวลาใน Task Schedule โดยกำหนดความถี่ในการ copy 



 4. ทดสอบในการสั่ง run ตัว script จะเริ่มทำการ copy ข้อมูลตามที่เราตั้งค่าไว้



เป็นอันเสร็จสิ้นการตั้งค่า copy folder เพื่อ backup โดยการ copy อัตโนมัติไปเก็บใน Folder ที่สร้างตามวันที่ปัจจุบัน

วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2566

วิธีการเช็ค Windows แท้ และดู Keys Windows 10/11

 1. เข้า cmd แล้วพิมพ์คำสั่ง slmgr /xpr แล้ว Enter


2. ถ้าเครื่องขึ้นข้อความว่า "the machine is permanently activated." แสดงว่าเครื่องถูก Activate เป็น Windows แท้แล้ว แต่ต้องไปเช็คว่ามี Keys แท้ด้วยรึป่าว ด้วยคำสั่งถัดไป


3. พิมพ์ wmic path SoftwareLicensingService get OA3xOriginalProductKey แล้วกด Enter ถ้าขึ้นมาว่า "OA3xOriginalProductKey และตามด้วย Keys " แสดงว่าเป็น Windows แท้ แต่ถ้าไม่ขึ้นเลย แสดงว่าเครื่องถูก Activated มาจากโปรแกรม Activate Digital License ทำให้เป็น Windows แท้


จบการตรวจเช็ค Windows แท้ ไม่แท้














การเขียน bat file map drive network

 1. ให้เปิด notepad แล้วพิมพ์

              net use * /delete
              net use w: \\192.168.1.98\Public

      *  net use * /delete เป็นการลบ map drive ที่มีอยู่ทั้งหมดออกก่อน
      *  net use w: \\192.168.1.98\Public เป็นการสร้าง map drive ไปที่ IP 192.168.1.98 ที่ folder ที่แชร์ไว้ชื่อ public และสร้างเป็นไดรว์ w ขึ้นมา  (ในส่วนนี้ไปดูว่าใช้เครื่องไหนแชร์ไว้ แล้วค่อยกำหนดว่าต้องการเพิ่มขึ้นมากี่ไดรว์)


2. ให้ทำการบันทึกไฟล์ โดยใช้นามสกุล .bat 



3. หลังจากบันทึกแล้วทดลองทำการ ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ map.bat จะได้ไดรว์ w เพิ่มขึ้นมา


จบการเขียน bat file เพิ่ม map drive network

























วันจันทร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566

Error 0x0000011b แก้ไขปัญหาแอดเครื่องปริ้นจาก Network ไม่ได้ Windows 10/11

 1. เปิดคำสั่ง run ขึ้นมา โดยกดปุ่ม Windows + R และพิมพ์คำสั่ง regedit แล้วกดปุ่ม Enter



  2. หน้าต่าง Registry Editor ให้เปิดไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Control\Print


 3. กดที่ Print แล้วที่หน้าต่างด้านขวาให้ คลิกขวาเลือก New > DWORD-32 bit และกำหนดชื่อไฟล์ RpcAuthnLevelPrivacyEnabled



4. หลังจากนั้นให้ดับเบิลคลิก RpcAuthnLevelPrivacyEnabled ให้กำหนดค่า valud data = 0 และคลิกปุ่ม Ok



 5. หลังจากตั้งค่าแล้วให้ Restart เครื่อง 1 รอบ

* หมายเหตุ ให้ทำทั้งเครื่องที่ต่อกับครื่องที่แชร์ Printer และ เครื่องที่จะแอด Printer













วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

 การติดตั้ง FFmpeg On Debian Linux และการใช้งานคำสั่งเบื้องต้น พร้อมการตั้งค่าให้ run อัตโนมัติเวลาเครื่องเปิดขึ้นมา

1. Login to SSH

2. อัพเดท Debian Package List 

    sudo apt update

3. Install FFmpeg ด้วย APT Package Manager

    sudo apt install ffmpeg

4. เช็ค Version ffmpeg

    ffmpeg -version


การใช้งานเบื้องต้น Restream from udp to m3u8 (ลิ้ง Multicast TV แปลงเป็น m3u8)

1. สร้าง Folder ที่จะทำการเก็บไฟล์ m3u8

   sudo mkdir /var/www/html/m3u8
   sudo mkdir /var/www/html/m3u8/chworkpoint

2. พิมพ์คำสั่ง 

    2.1   sudo ffmpeg -i udp://224.0.201.3:1510 -c:v copy -hls_list_size 6 -hls_flags delete_segments  /var/www/html/m3u8/chworkpoint/index.m3u8

            * จะแปลงไฟล์จาก udp://224.0.201.3:1510 ไปเป็น index.m3u8 ซึ่งจะได้ไฟล์ ts มาด้วย 6 ไฟล์ แล้วจะทำการบันทึกวนและลบไฟล์ ts เก่าไปเรื่อยๆ  (จะใช้ CPU ไม่เยอะเพราะเป็นการ restream ต่อไป)


    2.2  sudo ffmpeg -i udp://224.0.201.3:1510 -vf scale=840:480 -hls_list_size 6 -hls_flags delete_segments  /var/www/html/m3u8/chworkpoint/index.m3u8

            * จะแปลงไฟล์จาก udp://224.0.201.3:1510 ไปเป็น index.m3u8 โดยมีการปรับ Scale ไปเป็น 840x480 ด้วย ซึ่งจะได้ไฟล์ ts มาด้วย 6 ไฟล์ แล้วจะทำการบันทึกวนและลบไฟล์ ts เก่าไปเรื่อยๆ  (จะใช้ CPU เยอะเพราะเป็นการปรับ Scale ของภาพ)


การตั้งค่าให้ run อัตโนมัติเวลาเครื่องเปิดขึ้นมา ด้วย Crontab

1. พิมพ์ sudo crontab -e

2. พิมพ์ @reboot sudo ffmpeg -i udp://224.0.201.3:1510 -c:v copy -hls_list_size 6 -hls_flags delete_segments  /var/www/html/m3u8/chworkpoint/index.m3u8

        * เสร็จแล้วกดปุ่ม Ctrl + x แล้วพิมพ์ y เพื่อทำการบันทึกไฟล์

วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ติดตั้ง OpenVPN Server บน Debian 12 และการ Configuration

 1. ให้ Login เข้า Server Debian ผ่าน Putty หรือ Terminal ต่างๆ 


2. ให้เปลี่ยนสิทธิ์เป็น root โดยพิมพ์ su - แล้ว Enter แล้วใส่พาสเวิร์ดของ root


 

3. จะได้ตามนี้ root@ชื่อเครื่อง:~#



4. อัพเดทระบบโดยพิมพ์แต่ละตัว แล้วกด Enter เพื่อทำการอัพเดท

                     apt-get update -y

                     apt-get upgrade -y

5. ทำการติดตั้ง Install OpenVPN และ EasyRSA

    5.1 พิมพ์ apt-get install openvpn -y  แล้ว Enter และรอให้ติดตั้งจนเสร็จ

    5.2 พิมพ์ wget https://github.com/OpenVPN/easy-rsa/releases/download/v3.0.8/EasyRSA-3.0.8.tgz แล้ว Enter   (รอโหลดเสร็จ)

    5.3 พิมพ์ tar -xvzf EasyRSA-3.0.8.tgz แล้วกด Enter เพื่อทำการแยกไฟล์

    5.4 พิมพ์ cp -r EasyRSA-3.0.8 /etc/openvpn/easy-rsa  แล้วกด Enter เพื่อทำการ copy file ไปไว้ตามพาธ

6. ทำการ Build Certificate Authority

    6.1 พิมพ์ cd /etc/openvpn/easy-rsa  แล้วกด Enter เพื่อเข้าไปที่พาธ

    6.2 พิมพ์ nano vars แล้วกด Enter เพื่อสร้างไฟล์ vars (nano คือ text editor คล้ายกับ notepad ของ Windows) แล้วเพิ่มค่าดังนี้เข้าไปในไฟล์


set_var EASYRSA                     "$PWD"
set_var EASYRSA_PKI             "$EASYRSA/pki"
set_var EASYRSA_DN              "cn_only"
set_var EASYRSA_REQ_COUNTRY     "THA"
set_var EASYRSA_REQ_PROVINCE    "Phayathai"
set_var EASYRSA_REQ_CITY        "Phayathai"
set_var EASYRSA_REQ_ORG         "PUKKY-IT CERTIFICATE AUTHORITY"
set_var EASYRSA_REQ_EMAIL    "yutthaphum@pukky-it.com"
set_var EASYRSA_REQ_OU          "PUKKY IT EASY CA"
set_var EASYRSA_KEY_SIZE        2048
set_var EASYRSA_ALGO            rsa
set_var EASYRSA_CA_EXPIRE    7500
set_var EASYRSA_CERT_EXPIRE     365
set_var EASYRSA_NS_SUPPORT    "no"
set_var EASYRSA_NS_COMMENT    "PUKKY-IT CERTIFICATE AUTHORITY"
set_var EASYRSA_EXT_DIR         "$EASYRSA/x509-types"
set_var EASYRSA_SSL_CONF        "$EASYRSA/openssl-easyrsa.cnf"
set_var EASYRSA_DIGEST          "sha256"

                 * ใส่ค่าให้ติดกันไม่ให้มีเว้นบรรทัดว่าง        

      ทำการ Save File โดยกดปุ่มที่คีย์บอร์ด Ctrl + x แล้วพิมพ์ y และกดปุ่ม Enter เพื่อทำการบันทึก

      6.3 พิมพ์ ./easyrsa init-pki  แล้วกด Enter จะได้ Output 

                 Note: using Easy-RSA configuration from: /etc/openvpn/easy-rsa/vars

                 init-pki complete; you may now create a CA or requests.

                 Your newly created PKI dir is: /etc/openvpn/easy-rsa/pki

      6.4 พิมพ์ ./easyrsa build-ca nopass แล้วกด Enter  (Common Name = vpnserver)

                     จะได้ไฟล์ ca.crt 

7. ทำการ Generate Server และ Key Files

     7.1 พิมพ์ ./easyrsa gen-req vpnserver nopass  แล้วกด Enter 

                  จะได้ไฟล์ vpnserver.key 

     7.2 พิมพ์ ./easyrsa sign-req server vpnserver แล้วกด Enter 

                   จะได้ไฟล์ vpnserver.crt

     7.3 พิมพ์ ./easyrsa gen-dh แล้วกด Enter 

8. ทำการ copy All Certificate และ Key Files ทั้งหมดไปไว้ตามพาธ

                         cp pki/ca.crt /etc/openvpn/server/

                         cp pki/dh.pem /etc/openvpn/server/

                         cp pki/private/vpnserver.key /etc/openvpn/server/

                         cp pki/issued/vpnserver.crt /etc/openvpn/server/

9. สร้างไฟล์ Client Certificate และ Key Files

    9.1 พิมพ์ ./easyrsa gen-req vpnclient nopass  แล้วกด Enter (เปลี่ยนชื่อจาก vpnclient เป็นชื่อ user ที่ต้องการได้)

                จะได้ไฟล์ vpnclient.key

    9.2 พิมพ์ ./easyrsa sign-req client vpnclient  แล้วกด Enter   (เปลี่ยนชื่อจาก vpnclient เป็นชื่อ user ตาม ข้อ 9.1)


                 จะได้ไฟล์ vpnclient.crt

    9.3 ทำการ copy all certificate ทั้งหมดไปไว้ที่ /etc/openvpn/client/ โดยพิมพ์

                      cp pki/ca.crt /etc/openvpn/client/

                      cp pki/issued/vpnclient.crt /etc/openvpn/client/

                      cp pki/private/vpnclient.key /etc/openvpn/client/

10. ตั้งค่าไฟล์ OpenVPN Server โดยพิมพ์ nano /etc/openvpn/server.conf แล้วกด Enter แล้วใส่ค่าลงไปดังนี้

port 1194
proto udp
dev tun
ca /etc/openvpn/server/ca.crt
cert /etc/openvpn/server/vpnserver.crt
key /etc/openvpn/server/vpnserver.key
dh /etc/openvpn/server/dh.pem
server 10.8.0.0 255.255.255.0
push "redirect-gateway def1"
push "dhcp-option DNS 8.8.8.8"
push "dhcp-option DNS 8.8.4.4"
duplicate-cn
cipher AES-256-CBC
tls-version-min 1.2
tls-cipher TLS-DHE-RSA-WITH-AES-256-GCM-SHA384:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-256-CBC-SHA256:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-128-GCM-SHA256:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-128-CBC-SHA256
auth SHA512
auth-nocache
keepalive 20 60
persist-key
persist-tun
compress lz4
daemon
user nobody
group nogroup
log-append /var/log/openvpn.log
verb 3

                 เสร็จแล้วกดปุ่ม Ctrl + x แล้วพิมพ์ y แล้วกด Enter เพื่อบันทึกไฟล์

         10.1 พิมพ์  systemctl start openvpn@server แล้วกด Enter

         10.2 พิมพ์  systemctl enable openvpn@server แล้วกด Enter

         10.3 พิมพ์  ip a show tun0 แล้วกด Enter จะได้ดังรูป

                 


11. ทำการ Enable IP Forwarding พิมพ์ nano /etc/sysctl.conf แล้วกด Enter แล้ว uncomment ตรง 

                   net.ipv4.ip_forward = 1 


                  กดปุ่ม Ctrl + x แล้วพิมพ์ y แล้วกด Enter เป็นการบันทึกไฟล์

12. สร้างไฟล์ client.ovpn  โดยพิมพ์ nano client.ovpn แล้วกด Enter แล้วใส่ค่า ดังนี้

client
dev tun
proto udp
remote vpn-server-ip 1194
ca ca.crt
cert vpnclient.crt
key vpnclient.key
cipher AES-256-CBC
auth SHA512
auth-nocache
tls-version-min 1.2
tls-cipher TLS-DHE-RSA-WITH-AES-256-GCM-SHA384:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-256-CBC-SHA256:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-128-GCM-SHA256:TLS-DHE-RSA-WITH-AES-128-CBC-SHA256
resolv-retry infinite
compress lz4
nobind
persist-key
persist-tun
mute-replay-warnings
verb 3

         กดปุ่ม Ctrl + x แล้วพิมพ์ y แล้วกด Enter เป็นการบันทึกไฟล์

         *หมายเหตุ ตรง remote vpn-server-ip 1194  ให้แก้ไขตรง vpn-server-ip เป็น Public IP ของฝั่ง Server OpenVPN


หลังจากขั้นตอนด้านบนแล้วให้นำไฟล์ตามด้านล่างไปใช้งาน OpenVPN Client ต่างๆ ได้

                 client.ovpn

                 ca.crt

                 vpnclient.crt

                 vpnclient.key

13. กำหนดค่า IP Route ที่ Server OpenVPN เพื่อเวลา client access vpn เข้ามาแล้วให้สามารถใช้งานทรัพยากรต่างๆ ได้

                iptables -t nat -A POSTROUTING -s 10.8.0.0/24 -o eth0 -j MASQUERADE
                iptables -P INPUT ACCEPT
                iptables -P FORWARD ACCEPT
                iptables -P OUTPUT ACCEPT
                iptables -I FORWARD -m conntrack --ctstate RELATED,ESTABLISHED -j ACCEPT

   *หมายเหตุ eth0 คือชื่อ ehternet card ของ local lan ซึ่งแต่ละเครื่องจะไม่เหมือนกัน ต้องดูที่ขา Local Lan โดยใช้คำสั่ง ip a show แล้วกำหนด network id ของวง network นั้น

สามารถนำไปใช้กับโปรแกรม OpenVPN Client ตามระบบต่างๆ ดังนี้

1. For Apple IOS Apple

2. For Android  Android

3. For Mac tunnelblick

4. For Windows Openvpn


ที่มา - rosehosting

วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เพิ่ม Auto CC gmail อัตโนมัติ

เราสามารถเพิ่ม CC และ BCC เมล์อัตโนมัติใน Gmail ได้ แต่จำเป็นต้องติดตั้ง Chrome Extension ก่อนชื่อว่า  Auto BCC for Gmail by cloudHQ จาก ติดตั้ง

หลังจากนั้นทำตาม Step ดังนี้

1. เข้าไปที่ Gmail แล้วคลิกเลือกที่ Compose เพื่อที่จะสร้าง Email ใหม่ แล้วคลิกที่ icon กล่องจดหมายที่มีเครื่องหมายบวก โดยจะอยู่ข้างๆ ปุ่ม Send 


2. ให้คลิกเลือกที่ Add New Rule


3. ตรง drop down list ส่วนของ When emails are sendfrom: ให้เลือก email ว่าต้องการส่งจาก email ไหน

    ตรง drop down list ส่วนของ Select email from address to which rule applies to นั้นให้เราเลือกว่าจะส่ง ถึงใคร หรือไม่ส่งถึงใคร หรือจะส่งถึงทั้งหมด แล้วไปเลือกว่าให้ cc mail ถึงใคร ในที่นี้จะเลือกส่งถึงทุกคน เลือก to anyone

    ตรง drop down list ส่วนของ then automatically ให้เลือกว่า CC หรือ BCC แล้วใส่อีเมล์ที่จะให้ CC หรือ BCC ถึงไป 

    หลังจากเลือกหมดแล้วให้คลิก Save Rule


4. ทำการคลิกที่ Close


5. เสร็จแล้วลองมาทำการทดสอบโดยการลองส่งอีเมล์ โดยคลิกที่ Compose แล้วไปเลือกอีเมล์ที่เราต้องการส่ง ทีนี้มันจะเพิ่มอีเมล์ CC ที่เราสร้างไว้ มาให้อัตโนมัติครับ



เสร็จสิ้นการตั้งค่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้

ที่มา - makeuseof