ทำการ Enable POP In Gmail
1. เลือก Settings ที่หน้า Gmail ดังรูป
2. ในหน้า Settings ไปเลือกที่ Forwarding and POP/IMAP
3. ตรงเมนู POP Download ให้เลือกที่ Enable POP for all mail แล้วทำการ Save Changes
ตั้งค่า Outlook ให้รับเมล์แบบ POP
1. ในโปรแกรม Outlook ให้ไปที่ File>Info และเลือก Account Settings > Account Settings
2. ในแถบเมนู Account Settings ให้ไปที่ tab Email และเลือกที่ New
3. จะเข้ามาที่หน้า Add Account ให้เลือกที่ Manual setup or additional server types แล้วทำการคลิก Next>
4. เลือกที่ POP or IMAP
5. ใส่ข้อมูลอีเมล์
ที่อยู่ Email : ใส่อีเมล์ของคุณ
ชนิดบัญชีผู้ใช้ : POP3
เซิร์ฟเวอร์จดหมายขาเข้า : pop.gmail.com
เซิร์ฟเวอร์จดหมายขาออก (SMTP) : smtp.gmail.com
ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ
ชื่อผู้ใช้ : ใส่อีเมล์ของคุณ
รหัสผ่าน : รหัสผ่าน gmail ของคุณ
Gmail POP port: 995
Gmail POP SSL required: yes
6. หลังจากใส่ข้อมูลเสร็จให้คลิก Next > เพื่อทดสอบ download message จาก gmail
หมายเหตุ ถ้า Outlook ไม่สามารถเชื่อมต่อไปที่ Gmail ได้จากวิธีการข้างบนให้ทำการไปตั้งค่า Less secure app access จาก Gmail Account ก่อนโดยให้เข้าไปที่ Security ของ Google Account และไปเลือกที่ Less secure app access แล้วให้ทำการ On และทดสอบดึงอีเมล์อีกครั้ง
cr. : https://www.lifewire.com/what-are-the-gmail-pop3-settings-1170853
วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
Disable Startup Repair Windows 7
1. กดปุ่ม Windows + S แล้วค้นหา cmd
2. คลิกขวาที่ cmd แล้วเลือก Run As Admin..
3. พิมพ์คำสั่ง ดังนี้
- bcdedit /set {default} recoveryenabled No แล้วกด Enter
- bcdedit /set {default} bootstatuspolicy IgnoreAllFailures แล้วกด Enter
* เวลาเครื่องถูกปิดไปโดยไม่ได้สั่ง Shutdown เวลาเครื่องติดขึ้นมาจะไม่ติดหน้า Startup Repair อีกต่อไป
1. กดปุ่ม Windows + S แล้วค้นหา cmd
2. คลิกขวาที่ cmd แล้วเลือก Run As Admin..
3. พิมพ์คำสั่ง ดังนี้
- bcdedit /set {default} recoveryenabled No แล้วกด Enter
- bcdedit /set {default} bootstatuspolicy IgnoreAllFailures แล้วกด Enter
* เวลาเครื่องถูกปิดไปโดยไม่ได้สั่ง Shutdown เวลาเครื่องติดขึ้นมาจะไม่ติดหน้า Startup Repair อีกต่อไป
การเขียน Script Batch File Set IP
ตัวอย่างการเขียน Script Set IP Static
เปิดโปรแกรม Notepad แล้วพิมพ์คำสั่ง ดังนี้
netsh int ipv4 set address name="Ethernet" source=static address=192.168.17.107 mask=255.255.255.0 gateway=192.168.17.1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.8.8 index=1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.4.4 index=2
อธิบาย ดังนี้
netsh int ipv4 set address name="Ethernet" > คือชื่อของ Ethernet Card
source=static address=192.168.17.107 > คือการกำหนด IP Address เป็น 192.168.17.107
mask=255.255.255.0 > คือ กำหนด net mask เป็น 255.255.255.0
gateway=192.168.17.1 > คือ กำหนด Gateway เป็น 192.168.17.1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.8.8 index=1 > คือ ตั้งค่า DNS ตัวที่ 1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.4.4 index=2 > คือ ตั้งค่า DNS ตัวที่ 2
* DNS ด้านบนผมใช้ ของ Google นะครับ
เมือพิมคำสั่งด้านบนแล้ว ให้ Save เป็นไฟล์นามสกุล bat เช่น Static IP.bat
ตัวอย่างการเขียน Script Set IP DHCP
netsh interface ip set address "Ethernet" dhcp
netsh interface ip set dns "Ethernet" dhcp
เมือพิมคำสั่งด้านบนแล้ว ให้ Save เป็นไฟล์นามสกุล bat เช่น DHCP IP.bat
วิธีการใช้งานคือให้คลิกขวาที่ไฟล์ แล้วเลือก Run As Admin... แล้วลองดูว่าไอพีของเครื่องเปลี่ยนหรือไม่น่ะครับ ถ้ายังไม่เปลี่ยนต้องลองดูที่ชื่อของ Ethernet Card ว่าตรงตามเครื่องของเราหรือป่าวน่ะครับ
เปิดโปรแกรม Notepad แล้วพิมพ์คำสั่ง ดังนี้
netsh int ipv4 set address name="Ethernet" source=static address=192.168.17.107 mask=255.255.255.0 gateway=192.168.17.1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.8.8 index=1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.4.4 index=2
อธิบาย ดังนี้
netsh int ipv4 set address name="Ethernet" > คือชื่อของ Ethernet Card
source=static address=192.168.17.107 > คือการกำหนด IP Address เป็น 192.168.17.107
mask=255.255.255.0 > คือ กำหนด net mask เป็น 255.255.255.0
gateway=192.168.17.1 > คือ กำหนด Gateway เป็น 192.168.17.1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.8.8 index=1 > คือ ตั้งค่า DNS ตัวที่ 1
netsh interface ipv4 add dns "Ethernet" address=8.8.4.4 index=2 > คือ ตั้งค่า DNS ตัวที่ 2
* DNS ด้านบนผมใช้ ของ Google นะครับ
เมือพิมคำสั่งด้านบนแล้ว ให้ Save เป็นไฟล์นามสกุล bat เช่น Static IP.bat
ตัวอย่างการเขียน Script Set IP DHCP
netsh interface ip set address "Ethernet" dhcp
netsh interface ip set dns "Ethernet" dhcp
เมือพิมคำสั่งด้านบนแล้ว ให้ Save เป็นไฟล์นามสกุล bat เช่น DHCP IP.bat
วิธีการใช้งานคือให้คลิกขวาที่ไฟล์ แล้วเลือก Run As Admin... แล้วลองดูว่าไอพีของเครื่องเปลี่ยนหรือไม่น่ะครับ ถ้ายังไม่เปลี่ยนต้องลองดูที่ชื่อของ Ethernet Card ว่าตรงตามเครื่องของเราหรือป่าวน่ะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)